Friday, June 18, 2010

ความแตกต่างระหว่าง คน สอง คน‏



เธอชอบสีขาว --- เขาชอบสีดำ

เธอชอบตุ๊กตาหมี --- เขาชอบรถถัง



เธอชอบนั่งดูตะวันขึ้นที่ชายทะเลในตอนเช้า ---

เขาชอบบรรยากาศของแสงไฟในเมืองตอนกลางคืน



เธอชอบจักรยานเพราะความช้าของมัน
ทำให้เธอมีเวลาดูอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านไป
เขาชอบความเร็วของมอเตอร์ไซค์
เพราะมันทำให้เขาไปถึงที่หมายทันเวลา



เธอนอนสี่ทุ่มตื่นตีสี่เพื่อใส่บาตร

เขานอนตีสี่ ตื่นสี่โมงเย็น เพราะกลับดึก



เธอได้ท๊อบ เกือบทุกวิชา ---

เขาได้0 เกือบทุกวิชา



เธอถูกชมและรับรางวัลเด็กนักเรียนดีเด่น เป็นประจำ

เขาถูกด่าและมีชื่ออยู่ในบัญชีดำของโรงเรียน



เธอยิ้มง่าย รักเด็กๆ และกล้าแสดงออก ---

เขาหงุดหงิด เกลียดเด็กๆ และขี้อาย



เธอไม่ชอบกีฬากลางแจ้ง ---

เขาชอบเล่นบาส กับฟุตบอล



เธอขี้แย ---

เขาเข้มแข็ง



เธอกลัวฟ้าร้อง ---

เขาชอบฝนตก



เธอเกลียดความเหงา และไม่ชอบอยู่คนเดียว

เขาเบื่อสังคมและชอบเก็บตัวในห้อง



เธอร้องไห้ในเรื่องที่เราไม่คิดว่ามันน่าเศร้า ---

เขากลั้นน้ำตาในเรื่องที่อยากฆ่าตัวตาย



เธอมองหน้าเขาแล้วเห็นผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่ง ---

เขามองหน้าเธอแล้วเห็นนางฟ้าที่ดีที่สุดในชีวิตเขา



เธอจับมือเขาไว้ในวันที่เขาท้อแท้ ---

เขานั่งลงข้างๆเธอในวันที่เธอว้าเหว่



เธอเบื่อคำชื่นชมจอมปลอมและ
ต้องการได้ยินเสียงเขาแม้จะเป็นการด่าก็ตาม ---
เขาอยากได้ยินคำชื่นชมจอมปลอม
ขอแค่มันมาจากปากเธอ



เธอจมปลักอยู่ในความทุกข์ในวันที่เขาหายไป

เขาจมดิ่งลงในความสุข ในวันที่เธออยู่ข้างๆ



วันใดก็ตามที่เขาท้อแท้ หรือ ยอมแพ้
เธอจะโทรไปหาเขาพูดแต่คำว่าฉันรักเธอนะ

วันใดก็ตามที่เธอผิดหวัง หรือ เหงาเขาจะโทรไปหาเธอ
และจะเงียบ อยู่อย่างนั้น

จนกว่าเธอจะหยุดร้องไห้



วันใดก็ตามที่เขาได้รับชัยชนะ
เธอจะตรงเข้าไปหา แล้วกอดเขา

วันใดก็ตามที่เธอได้รางวัล เขาจะตรงเข้าไปหา
ยิ้มให้ชูนิ้วโป้งแล้วพูดคำว่า ยินดีด้วย



วันเกิดเขา เธอหอมแก้มเขาฟอดหนึ่ง แล้วพูดคำว่าฉันรักเธอ

วันเกิดเธอ เขาโทรมาตอนเที่ยงคืน แล้วพูดคำว่า ฉันก็รักเธอ



เธอจับมือเขาเพื่อจะเตือนให้เขารู้ว่าเขาสำคัญสำหรับเธอมากแค่ไหน

เขานั่งข้างๆเธอ เพื่อให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว



เธอจะร้องไห้ และขอร้องให้คนที่ทำร้ายเขาหยุดการกระทำ ---

เขาจะต่อยหน้า ใครก็ตามที่ทำร้ายเธอ



เมื่อเขาโกรธ เธอจะรอให้เขาหายโกรธ แล้วโทรไปบอกว่า ขอโทษนะ

เมื่อเธอโกรธ เขาจะดึงมือเธอไว้ แล้วพูดคำว่า ฉันขอโทษ



เธอโทรไปหาเขาทุกวันเพื่อพูดคำว่า ฉันรักเธอ ---

เขารอคอยโทรศัพท์เธอทั้งวัน เพื่อรอฟังคำว่า ฉันรักเธอ

Thursday, June 17, 2010

ถ้าพวกเรายังอยู่ในรถคันนั้นก็ดีน่ะซิ!.

มีคู่รักคู่หนึ่งนั่งรถเมล์ที่กำลังตรงไปในเมืองในหุบเขา

มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ลงกลางทางหลังจากที่พวกเขาได้ลงแล้ว

รถเมล์ก็วิ่งต่อไปแต่เพียงไม่นานก็มีหินก่อนขนาดมหึมา

ได้ตกลงมาจากที่สูงมาก และทับรถเมล์คันนั้นพังยับเยิน

ทุกคนที่อยู่ในรถในเวลานั้นเสียชีวิตทั้งหมด

คู่รักคู่นั้นเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พูดขึ้นว่า

"ถ้าพวกเรายังอยู่ในรถคันนั้นก็ดีน่ะซิ!"

คนส่วนใหญ่น่าจะคิดว่า "ยังดีนะที่เราลงจากรถก่อน!"

แต่คู่รักคู่นี้กลับพูดสิ่งที่ต่างจากคน

ส่วนใหญ่ คุณคิดว่าเพราะอะไร???


________________________________


ตอบมาก่อนนะว่าคิดว่าไง เดี๋ยวจะเฉลยทีหลัง




ขอเฉลยนะครับ




________________________________



ถ้าพวกเขายังคงอยู่และไม่ได้ลงจากรถ

รถเมล์คันดังกล่าวก็จะไม่ต้องหยุดรถเพื่อพวกเขา

และจะขับเลยตำแหน่งที่หินถล่มลงมา!!

ในชีวิตของพวกเรานั้น

ให้ลองมองด้วยมุมมองที่ต่างจากของตัวเองและพยายามเข้าใจ

และช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น อย่าได้ใช้ชีวิตอย่างขาดสติและเฉยเมย

ทำเพื่อตัวเองอีกต่อไปเลย

คุณตอบปริศนาข้างบนถูกมั้ยครับ?

ถ้าคุณตอบถูก(โดยไม่เคยอ่านที่อื่นมาก่อนนะ) แปลว่าผมตาถึงมาก

ที่ได้คุณมาเป็นเพื่อน แต่ถ้าคุณตอบผิด

ก็ยินดีกับคุณด้วยที่เป็นเหมือนผม

และขอให้ช่วยส่งข้อความนี้

ต่อไปให้กับเพื่อนที่คุณรักด้วย

Wednesday, June 2, 2010

แสงไฟในเศษฟืน‏.

แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้.. ยาย..รอ...


: แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้..ยาย..รอ...
คำสอนของยายทอง ขอปล้องกลาง
ชีวิต หญิงชราวัย 81 ปี ที่ต่อสู้ชีวิต ด้วยการ'ขายเศษฟืน'
ยายทอง คือยายที่เราเคยไปถ่ายทำ สารคดีเรื่อง แสงไฟในเศษฟืน
แล้วได้รับรู้ว่าชิวิตของ ยายนั้นต้องอยู่อย่างลำบากในเพิงสังกะสีเก่าๆ
ไม่ต่าง จากกองขยะ ที่ทั้งอุดอู้ สกปรก และไม่สามารถกันแดดฝนอะไรได้ เลย
ยายต้องเดินเท้าหลายกิโลพร้อมกับกระสอบฟืน ขวดน้ำ เก่าๆ และร่มคันหนึ่ง
ใช้พยุงตัวเองมาเรื่อยๆให้ถึง หน้าโรงเรียนบุญวัฒนาเพื่อขอขึ้นรถโดยสาร
( ที่บางคัน จอดรับ และบางคันก็ไม่ให้ยายขึ้น) ไปยังหน้าร้านทอง
สามแยกตลาดแม่กิมเฮง





'1 บาท เศษไม้ขอแลกเศษเงิน ขอบคุณลูกหลาน..ที่ช่วยต่อชีวิตให้ ยาย'
ประโยคหนึ่งในเศษกระดาษเก่ายับ ที่วางอยู่หน้ากองฟืน
ได้คนขับสามล้อแถวนั้นเขียนทิ้ง ไว้ให้
เผื่อว่าคนที่ผ่านไปมาจะได้เห็น ว่า






ที่มุมเสาไฟฟ้านั้นมีอีกชีวิตที่รอคน เมตตา
ซึ่งความจริงนั้นบางวันยาย...
อาจได้แค่คนที่หยุดมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครสนใจจะซื้อเศษ ไม้ไร้ค่านั้นเลย
สั ก ค น เ ดี ย ว






เราส่งเมลล์นี้มา ด้วยความที่อยากช่วย เหลือยาย
แต่ไม่รู้จะช่วยด้วยวิธี ไหน
อยากให้เพื่อนๆช่วย บอกต่อกันไปเรื่อยๆ
เผื่อว่าคนที่อยู่โคราช และมีโอกาสผ่านไป
ถนนเส้นย่าโม สามแยกทางเข้าตลาดแม่ กิมเฮง ตรงเสาไฟฟ้า หน้าร้านทอง
เพื่อนๆจะเห็นคนแก่คน หนึ่ง ที่ไม่มีอะไรเลย นั่งอาศัยเงาจากเสาไฟฟ้า
เพื่อ ขายของบางอย่าง ที่คนสมัยนี้เค้าไม่ได้ต้องการแล้ว
แต่ 'ฟืน' มันก็เป็นเหมือนความหวัง เดียวที่ยายมี
ทางออกเดียวที่ยายเห็น
จากดวงตาที่พร่ามัวเกือบบอดด้วยโรคชรา
และหูที่ตึงจนเกือบไม่ได้ยินแล้ว
ถ้าเพื่อน ไม่ได้ผ่านไปก็ช่วยบอกต่อๆกันไป ที
ถือว่าเป็นการทำบุญเท่าที่เราทำได้ เผื่อว่าวัน หนึ่ง
จะมีใครสักคนที่จะเข้ามาช่วย เหลือ
ยายทอง ให้เป็นอยู่ในสภาพที่ดีกว่า นี้....

Monday, May 3, 2010

ลำบากเพียงนิด แต่เต็มอิ่มในใจ?‏

ข้อความบังเอิญ.... พอดีมีเพื่อนส่งมา ให้ อ่านแล้วรู้สึกดี ยาวไปนิด แต่ก็อยากให้ทุกคนอ่าน
“มีคนเคย บอกว่า...ชีวิตคือความบังเอิญ..
แต่ความบังเอิญบางครั้งก็เปลี่ยนแปลง...มุม มองเราใหม่ทั้งชีวิต”
ผมไม่เคยเชื่อในข้อความนี้...จนกระทั่งวันธรรมดาวัน หนึ่ง ที่ผมเปิดมือถือขึ้นตอนเช้า
ผมได้รับข้อความ SMS บอกว่า ผมมีข้อความ เสียงฝากไว้ ใน Voice Mail Box ของผมให้โทรเข้าไปฟัง...

ผมกด เข้าไปฟัง แต่พอฟัง...ผมกลับรู้สึกแปลกใจใหญ่เพราะเสียงของคนที่ฝากข้อความไว้นั้นผมไม่ คุ้นเอาเสียเลย...
และยิ่งฟังข้อความที่ฝากไว้...ยิ่งน่าจะไม่เกี่ยวกับผมเลย ด้วยซ้ำ แต่เสียงเศร้า ของชายสูงวัยนั้น ทำให้ผมสะดุดใจผมอย่างยิ่ง

“ ชัย...นี่พ่อนะ พ่อพยายามติดต่อลูกหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ คือ พ่อต้องเข้า รพ.ไปผ่าตัดอาทิตย์หน้า และหมอให้พ่ออยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่พรุ่งนี้ ที่บ้าน ไม่มีคนอยู่ ถ้าลูกว่างก็แวะมาได้ที่โรงพยาบาลโคราช บางทีพ่ออาจจะเหลือเวลาไม่ มาก...”

เสียงปลายทาง...สิ้นสุดลง ผมอึ้งและงง กับข้อความที่เพิ่งฟังจบ ไป อยู่พักหนึ่ง

ผมไม่ได้ชื่อชัย...และผมก็ไม่มีพ่ออยู่โคราช พ่อผมเสีย ไปนานมากแล้ว...
ผู้ชายคนนั้นคงกดเบอร์โทรผิด ผมคิดแค่นั้น และพยายามไม่ได้ สนใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งฟังมา
ทำไมต้องสนใจ? มันไม่เกี่ยวกับผม!

แต่ ตลอดวันนั้น เสียงล้าๆ เหนื่อยๆ ของชายคนนั้นที่ฝากไว้ใน Voice Mail Box วน เวียนเข้ามารบกวนใจผมเป็นระยะ...
ผมได้แต่คิดว่า ผมมีสิทธิ์ที่จะลืมมัน? มัน ไม่ใช่หน้าที่อะไรของผมที่จะต้องสนใจ กับแค่การฝากข้อความผิดเบอร์...

แต่ประโยค “บางทีพ่ออาจจะเหลือเวลาไม่มากนัก...” มันทำให้ผมรู้สึกแย่ หากไม่ลุก มาทำอะไรสักอย่าง

ผมตัดสินใจโทรกลับไปที่หมายเลขที่โทรมาฝากข้อความ ไว้....ซึ่งเป็นโทรศัพท์บ้าน...
ผมโทรไปหลายต่อหลายครั้ง ไม่มีคนรับสาย.... ใช่ป่านนี้เค้าคงอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
ผมได้แต่ถอนใจและพยายามบอกว่าตัวเองทำ ดีที่สุดแล้ว...

แต่ตอนเย็นของวันนั้น ในที่สุด ความสำนึกดี...(ที่มี อยู่ไม่มากนักในตัวผม)
ก็(ดัน) ดลบันดาลในให้ผม หาทางออกได้ว่า ผมน่าจะลอง โทรไปหาเบอร์มือถือที่ใกล้เคียงกับผมดู
เผื่อบางที อาจจะมีเบอร์ใด...ที่อาจ จะเป็น ลูกชายของคนที่ฝากข้อความไว้ก็ได้
เพราะถ้ากดผิดได้แสดงว่าหมายเลขคง จะห่างกันไม่มาก

ผมตัดสินใจไล่...กดเบอร์มือถือ ที่ใกล้เคียงกับเลขหมาย โทรศัพท์ของผม ตั้งใจว่าจะกด แค่สิบเบอร์แรก...เท่านั้น
โดยเรียงจากเลขที่ ใกล้เคียงกันมากที่สุด...ผมทำมันด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่นักหรอก..
เพราะ มันไม่สนุกเลยที่คุณจะต้องโทรไปหาใครที่ไม่รู้จักแล้วบอกเค้าว่า

“สวัสดี ครับ คุณชื่อชัยหรือเปล่าครับ...ผมเป็นคนที่มีเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ใกล้เคียง กับคุณ คือ คุณพ่อคุณคงกดเบอร์ผิด และฝากข้อความไว้ที่ Voice Mail ของผม คือ ท่านบอกว่า เค้ากำลังจะเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลทีโคราชอาทิตย์หน้า....”

ทายซิครับ...ผมได้รับคำตอบ....อะไรบ้าง?
บ้างก็วางสายใส่อย่างไม่ ปราณี...
บ้าง..ก็ถามกลับมาว่า คุณบ้าหรือเปล่า?
แต่คำตอบยอดนิยมที่ผมได้ รับ...คือ....“ขอโทษนะค่ะ...ดิฉันไม่ซื้อประกันตอนนี้...และทำบัตรเครดิตครบทุก ธนาคารแล้วค่ะ”
ผมอยากจะบ้าตาย..ผมไม่ได้พูดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องประกัน กับ บัตรเครคิตซะหน่อย..เฮ้อ...

บางที...คนสมัยนี้ คงยุ่งเกินกว่าที่จะ คุยกับคนแปลกหน้า..ก็ได้...มั้ง……
ผมนึกโกรธ เจ้าความสำนึกดีในตัวเอง...ที่ มันยังดึงดันพยายามต่อ...
จากที่ตั้งใจว่า จะโทรแค่ 10 เบอร์ที่ใกล้เคียง เท่านั้น แล้วผมก็ลามปาม...โทรไปถึง..สามสิบเบอร์
แต่ในที่สุด..ผมก็ต้อง.. ถอนใจ ...หมดหวัง..เมื่อเบอร์สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้
ผม...ตัดสินใจฝากข้อ ความ Voice Mail ของหมายเลขที่ผมลองสุ่มโทรไป... ด้วยประโยคที่ผมพูดซ้ำกัน มากกว่า 30 รอบ อย่างเชี่ยวชาญ

“สวัสดีครับ คุณชื่อชัยหรือเปล่าครับ... ผมเป็นคนที่มีเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ใกล้เคียงกับคุณ คือ คุณพ่อคุณคงกดเบอร์ ผิด และฝากข้อความไว้ที่ Voice Mail ของผม คือ ท่านบอกว่า เค้ากำลังจะเข้าผ่า ตัดที่โรงพยาบาลทีโคราชอาทิตย์หน้า....”

ผมวางสาย...เบอร์โทรที่เป็น... เป้าหมายสุดท้าย...เสร็จสิ้นไปแล้ว...
ผมพยายามปลอบใจตัวเองว่า...ผมทำดีที่ สุดแล้ว...และไม่ควรรู้สึกผิดอะไรอีก
ผมหลับตานึกภาพพ่อของคนที่ชื่อชัย.... ที่ต้องนอนป่วยโดดเดียวที่โรงพยาบาล
ผมได้แต่หวังว่า เค้าจะมีช่องทางการ ติดต่อสื่อสารอย่างอื่นที่ทำให้สองคนนี้ได้คุยกันได้
แต่แล้ว...สวรรค์ ก็คง มีตาอยู่บ้าง...
(จริงๆ ผมว่าสวรรค์น่าจะมี Call Center เพราะถ้ามีแค่ตาบาง ทีอาจจะมองไม่เห็นทุกคนที่เดือดร้อน)

แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์จากเลข หมายหนึ่งเข้ามา นั่นคือ เลขหมายสุดท้ายที่ผมฝากข้อความไว้ใน Voice Mail นั้น เอง

“ขอโทษนะครับ คุณใช่คนที่ฝากข้อความไว้ใน Voice mail ของผมหรือ เปล่า? ผมชื่อชัย…”
และแล้วภาระกิจอันยิ่งใหญ่ของผมก็สำเร็จ เมื่อคนที่ชัย โทรกลับมาจริงๆ

แม้ในน้ำเสียงของเค้าดูจะไม่ค่อยไว้วางใจกับเรื่องที่ผม เล่าเท่าไหร่ และยังสงสัยอยู่หลายประเด็น
แต่เมื่อผมบอกว่าเขาสามารถโทรไปสอบ ถาม ที่โรงพยาบาลโคราชได้ว่ามีชื่อพ่อเค้าอยู่หรือเปล่า
เขาวางหูและเงียบหาย ไปพัก และโทรกลับมาขอบคุณผม
เพราะที่โรงพยาบาลโคราชยืนยันว่ามีคนป่วยเป็น มะเร็งขั้นสุดท้ายที่ชื่อตรงกับคุณพ่อของเค้าจริงๆ
ผมอึงไปพัก...เมื่อรู้ ว่า...น้ำเสียงล้าๆ...ที่ผมได้ยินจาก Voice Mail Box นั้นเกิดจากการเป็นโรคร้าย ระยะสุดท้าย..

ชัยรีบเดินทางกลับไปโคราช เขาไปถึงก่อนที่พ่อจะผ่าตัด
แค่หนึ่งวัน ชัย โทรมาขอบคุณผมอีกครั้ง
เขาเล่าว่าสาเหตุที่เขาต้องปิดมือ ถือ หนีหน้าครอบครัวและคนอื่น
เพราะธุรกิจที่เขาที่กรุงเทพมีปัญหา เขาต้อง หนีเจ้าหนี้ที่ตามทวงอย่างหนัก
เขาบอกว่า แต่สิ่งที่โชคดีที่สุดของเขา ตอน นี้ อย่างน้อย เขาก็ได้มีเวลาได้ดูแลพ่อ แม้จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายก็ตาม

ผมยังเก็บข้อความเสียง ของคุณพ่อของชัยเอาไว้ และ แอบกด เข้าไปฟังอีกหลาย ครั้ง
เพราะ ท่ามกลางชีวิตที่ยุ่งวุ่นวาย จนไม่มีเวลาจะสนใจคนอื่นของผม
ข้อความเสียงนั้น ใน Voice Mail Box ที่ผมได้รับโดยบังเอิญนั้น...คอยเตือนให้ผม รู้ซึ้ง ถึงความหมายของคำ ว่า


“การที่เรายอมลำบากเพียงเล็กน้อย... เพื่อคนอื่นบ้างนั้น ใครจะรู้ว่า...บางที มันอาจจะหมายถึงสิ่งที่มีค่าที่สุดของ อีกคนหนึ่งก็ ได้”

ภาวะสมองเสื่อม..กับไข่ไก่‏.

มีประโยชน์มาก โปรดอ่านและเผยแพร่แก่ผู้ใกล้ชิดด้วย

ห็นว่ามีคุณค่าและเป็นประโยชน์ จึงอยากเผยแพร่ต่อ....หากใครได้ดูรายการ "ข้อเท็จจริง..วันนี้" ทางช่องยูบีซี 7
ที่มีการการพูดคุยกับ
ศ.นพ.รุ ่งธรรม ลัดพลี เกี่ยวกับเรื่อง "ภาวะสมองเสื่อง..กับไข่ไก่"
เรื่องที่มีการการสนทนากันนั้น
พอจับใจความหลักๆ ได้ว่า ... จากค่านิยมเดิมๆที่ทราบกันว่า การบริโภคไข่ทุกวันนั้น
จะไปเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด
ทางคุณหมอบอกว่าอยากให้เลิกค่านิยมดังกล่าวเสีย
เพราะข้อเท็จจริงในปัจจุบันนั้น
ไข่นับว่าเป็นอาหารราคาถูก ปรุงง่าย
แต่มากด้วยคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด
การที่หลายๆคนมีระดับคลอเสลเตอรอลในเลือดสูงนั้น
เป็นเพราะตับทำงานไม่มีประสิทธิภาพเอง
คุณหมอยังกล่าวอีกว่า สำหรับคนที่มีระดับคลอเลสเตอรอลสูงในระดับ 200 นั้น หากทานไข่แล้ว
มันไปเพิ่มอีกเพียง
20 แต่ตรงกันข้ามประโยชน์ที่ได้จากการทานไข่ มันมากกว่าไอ้ส่วนที่ไปเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด คุณหมอบอกว่า
โรคอัลไซเมอร์นั้น
ผลการวิจัยล่าสุด ระบุว่า เป็นเพราะอาการเลือดในสมองน้อย หรือเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ การรับประทานไข่ทุกวันๆละ อย่างน้อย 2 ฟอง จะช่วยได้มาก คุณหมอยังอ้างถึงและพูดถึงผู้สูงอายุว่าการบริโภคไข่ทุกวันนั้น ไม่มีปัญหาดังที่เราๆเข้าใจกันแบบผิดๆ
คุณหมอรักษาผู้สูงอายุหลายๆคนที่มาให้การรักษาในหลายๆโรค
ขนาดอายุ 80 กว่าคุณหมอยังแนะนำให้ทานไข่วันละ 2 ฟอง
คุณหมอยังแนะนำให้ทานไข่วันละ
2 ฟอง ผลก็คืออาการของโรคที่รักษาบรรเทาลง คนไข้มีอาการดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากที่เดินไม่ค่อยได้
ก็กลับมาเดินได้
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ไข่มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่,ไข่เป็ด,ไข่นกกระทา, และอีกหลายๆชนิด
แต่ไข่ไก่ดีที่สุดในกลุ่ม
ส่วนการนำมาประกอบอาหารนั้นแล้วแต่ใจชอบ ประกอบอาหารแบบไหนได้ทั้งนั้น คุณหมอเสริมว่า
ส่วนของไข่ที่ดีที่สุดนั้น
อยู่ที่จุดๆหนึ่งในไข่แดงที่มีลักษณะคล้ายๆเส้นใยยึดส่วนอื่นๆไว้ หากไม่เคยสังเกต ก็ลองเตาะไข่ดิบดู) พร้อมกันนี้
ก็ได้มีการยกแผนภูมินำมาประกอบว่าประเทศไทยมีการบริโภคไข่ต่อคนมากน้อยเพียงใด
ปรากฎว่า ต่ำกว่าหลายๆประเทศที่เจริญแล้ว
โดยประเทศที่บริโภคไข่ต่อคนสูงสุด
ก็คือญี่ปุ่น รองๆลงมาก็มีจีนแดง, สหรัฐอเมริกา, ฯลฯประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประชาชนส่วนใหญ่มีสติ ปัญญาที่ดี ทำไมอาหารมื้อเช้าทุกวัน ยังมีไข่เป็นส่วนประกอบเสมอ และทานกันทุกวัน แต่เรากลับยึดถือแต่ค่านิยมเรื่องคลอเลสเตอรอล.... การบริโภคไข่จะช่วยบำรุงสมองเป็นอย่างดี อย่าไปสนใจพวกอาหารเสริมที่โฆษณากันเลย ไข่นี่แหละสุดยอดของอาหารแล้ว
หากอยากฉลาด ต้องทานไข่
คุณหมอยังเสริมว่าภาวะเลือดที่ข้นเกินไป จะไม่เป็นผลดี เพราะการนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกายจะไม่มีประสิทธิภาพเพราะการนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกายจะไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆในแต่ละวัน

เพื่อน!! สำคัญเสมอ

**มีข้อความไม่สุภาพ โปรดใช้หัวใจในการอ่าน ด้วย**

' เพื่อน!! สำคัญเสมอ'


ระหว่างเพื่อนกะแฟน...


++ อาหาร ++
เพื่อน: ข้าวราดแกง / ก๋วยเตี๋ยว ราคาไม่เกิน 30 แดกไรแพงๆวะ เปลืองชิบ
แฟน: กินอะไรก็ได้ที่มันไม่ใช่ข้าว - สปาเก ตตี้
เฟรนฟรายซ์ ซูชิ ฯลฯ สั่ง กันไป… มื้อละร้อยขึ้น
-------- ------------------ --------------------------
++ ข้ามถนน ++
แฟน: ข้ามได้มั้ย ระวังนะครับ! จับมือผมไว้
เพื่อน: ………อ้าว! เหี้ย… รอ กูด้วย(แม่งข้ามไปนานละ)
-------------------------- ----------------- ---------
++ เวลาเดิน ++
แฟน: แนบชิดประหนึ่งตัวดูดแบบ สุญญากาศ
เพื่อน: เฮ้ย! ไปไกลๆกูหน่อยดิ ร้อนจะตายห่า!!
------ -------------------- --------------------------
++ บนรถ เมล์ ++
แฟน: นั่งก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมยืนเอง
เพื่อน: เหยิบ หน่อยดิวะ กูจะนั่งด้วย!
-------------------------- ----------------- ---------
++ เงิน ++
แฟน: มีเสมอ..จ่ายไม่อั้น
เพื่อน: ไม่มีเสมอ... มึงออกไปก่อนละกัน เดี๋ยวกูให้(แร้วแม่งก็ชิ่ง)
- ------------------------- --------------------------
++ มา สาย ++
แฟน: ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้
เพื่อน: ทำห่าไรอยู่วะ มา โคตรช้าเลย สาด ...เลี้ยงข้าวกูเลย(เพิ่งจะมาก่อนแม่ง
ได้ 5 นาที เหมือนกัน)
-------------------------- ------------------------- -
++ ช่วยทำธุระ ++
แฟน: ว่างเสมอ - อ๋อ ว่างครับ จะให้ไปถึง ที่นั่นกี่โมงดี
จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า
เพื่อน: ไม่เคย ว่าง - ขนของย้ายห้องเหรอวะ .. เออ...ที่จริงก็ได้นะ
แต่พอดีแม่กูให้ ช่วยพาไปหาญาติๆฝ่ายแม่ว่ะ
แล้วบ่ายๆต้องไปหาของฝ่ายพ่ออีก คงไม่ว่าง แล้วละ
-------------------------- ------------------------- -
++ กลับบ้านดึก ++
แฟน: เดี๋ยวผมนั่งรถไปส่งดีกว่านะ กลับคน เดียวอันตราย
เพื่อน: กลับยังไงวะมึง มีค่ารถป่าว แต่กูไม่มีให้ยืมนะ เว้ย
-------------------------- ------------------------- -
++ ป่วย ++
แฟน: เป็นไรมากมั้ย? กินยายังคับ ห่มผ้าด้วยนะ( แม่งดูแลแม่อย่างนี้ป่าววะ)
เพื่อน: เป็นห่าไรอีกวะ สำออยอะดิมึง… ออก มาให้ไวเลย แดกเหล้ากัน
---------------------------
++ สอน หนังสือ ++
แฟน: ไม่เข้าใจตรงไหนบอกนะครับ จะอธิบายให้ใหม่
เพื่อน: กูสอนมึง 3 รอบแล้วนะ ห่านี่ แดกหมาแทนข้าวไงวะ
-------------- ------------ --------------------------
++ วาเลนไทน์ ++
แฟน: ให้คุณได้ทุกอย่าง ยกเว้น ดาว เดือน และ ขนหน้าอก
เพื่อน: ……………( วันนี้มันไม่มีตัวตน)
-------------------------- -------------------- ------
++ โดนทิ้ง ++
แฟน: เราไปกันไม่ได้ / อย่ามายุ่งกับ เรา / ไปไหนก็ไปรำคาญ (so sad)
เพื่อน: ไม่เป็นไรเว้ย! ช่างแม่ง … มึง ยังมีกูอยู่




ถ้าเห็นด้วยกรุณาส่ง ต่อ (ถ้าไม่ส่งถือจะว่าไม่เห็นด้วย)

Friday, April 23, 2010

ถ้าบริษัท เหล่านี้หันมาทำ ถุงยางล่ะ!? ....‏

ถุงยางพริงเกิลล์ - ลองเมื่อไหร่มันไม่เลิก

ถุงยางเลย์ - ชิ้นเดียวไม่เคยพอ

ถุงยางแมคโดนัดล์ - อร่อยรส สนุกล้ำ

ถุงยางคลอสเตอร์ - ความสุขที่คุณดูดได้

ถุงยางลีโอ - ถูกคอ ถูกใจ

ถุงยางเป๊ปซี่ - รสชาติของคนรุ่นใหม่

ถุงยางไนกี้ - Just do it

ถุงยางเอนเนอร์ใจเซอร์ - ให้พลังนานกว่าถุงยางธรรมดา 7 เท่า

ถุงยางแอร์โรว์ - เอกลักษณ์ของเอกบุรุษ

ถุงยางมิต้า - เล็ก ๆ มิต้าไม่ ใหญ่ ๆ มิต้าทำ

ถุงยางฮิตาชิ - ป๊อบเลือกฮิตาชิ

ถุงยาง tv direc - ถ้าไม่พอใจยินดีคืนเงินให้ใน 30 วัน


ถุงยาง Orange - ทำให้คุณได้อยู่กับคนสนิทยาวนานขึ้น

ถุงยาง DTAC - ง่ายสำหรับคุณ

ถุงยาง GSM - ชีวิตเหนือระดับ

ถุงยางเอไอเอส - ถุงยางเหนือระดับ

ถุงยางใกล้ชิด - รักแท้แพ้ถุงยาง

ถุงยางวอลโว่ - ทุกชีวิตปลอดภัยในถุงยาง ...

ถุงยางลิโพ - คำเตือน: ห้ามใช้เกินวันละ2ห่อ และโปรดอ่านคำเตือนบนฉลากก่อนใช้ทุกครั้ง

ถุงยางสไปร์ท - สดใสซาบซ่า

ถุงยางออร์ร่า - ใส สะอาด บริสุทธิ์

ถุงยางมิสทีน - ถุงยางมาแล้วค่ะ

ถุงยางธานินทร์ - ทุกบาทคุ้มค่าด้วยถุงยาง

ถุงยางคอลเกต – ถุงยางไม่ผุอยู่แล้ว


ถุงยางไวตามิลค์- มีโปรตีน ให้พลังงาน

ถุงยางคอนเวิร์ส - ถุงยางใครถุงยางมัน

ถุงยางเบียร์ช้าง - ถุงยางระดับโลกของไทย

ถุงยางเบียร์ไท - รสดี ดีกรีหนัก

ถุงยางคาเธ่แปซิฟิก - ถึงที่หมาย สบายผิดกัน

ถุงยางเพ็ดดีกรี - เหมาะสำหรับสุนัข

ถุงยางยาจุดกันยุงตราห่านฟ้า - ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากิน* Censor*

ถุงยางโซดาสิงห์ - ซ่าจนหยดสุดท้าย

ถุงยางตรา Carson - ทนดีไม่มีย้วย

ถุงยางห้าห่วง - ทนหายห่วง

ถุงยางรอสโซ่ - ปราการด่านสุดท้ายของท่านชาย

ถุงยาง Camry - ทำให้ผู้อื่น เป็นผู้ตาม


ถุงยาง Chicklet - มันจนหยุดไม่ด๊ายยยยยย!!!!!!

ถุงยาง Isuzu - Direct Injection ต้อง Isuzu

ถุงยาง Hack - รสชาติที่คุ้นลิ้นมานาน

ถุงยางปตท. - พลังไทยเพื่อไทย

ถุงยางเอสโซ่ - จับเสือใส่ถุง(ยาง)พลังสูง

ถุงยางเชลล์ - วางใจเมื่อใช้เชลล์

ถุงยางเซเว่นอีเลฟเว่น - ถุงยางที่รู้ใจใกล้ๆคุณ

ถุงยางตราหมี - หนึ่งนี้ที่คุณแม่เลือก

ถุงยางดูเม็คส์ - โตเต็มตัว ฉลาดเต็มวัย

ถุงยางเฟสสัน - ถุงยางยุคพัฒนา ควรค่าแก่การเลือกใช้

ถุงยาง Dove - มีมอยเจอไรเซอร์ถึง 1 ใน 4 ของถุง

ถุงยางนกแก้ว – ถุงยางหอมคู่คนไทยมานับสิบๆปี


ถุงยางชาร์ป - ก้าวล้ำไปใน ...

ถุงยางทีวีพูล - รู้ลึก รู้จริง

ถุงยางไมโล - ถุงยางไมโลเสริมเพิ่มพลังงาน ๆ

ถุงยางปุ๋ยม้าบิน - หวัดดี ... จ้าวโลก

ถุงยางSALZ - เค็ม ... แต่ดี

ถุงยาง อี โม ฟอร์ม - เหนียวดี ฟันไม่เสียว

ถุงยางแมกกี้ - เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

ถุงยางเวลออย - ลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลาย

ขำขัน : อุปกรณ์สำคัญ.





ชายคนหนึ่งตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง
พบว่ามีลิงกอริลลาตัวใหญ่อยู่บนต้นไม้ในสวนหลังบ้านเขา

ด้วยความกลัวเขารีบเปิดสมุดหน้าเหลืองหาบริการกำจัดกอริลลาแล้วรีบโทรหา

พนักงานบริษัทรับเรื่องแล้วบอกเขาว่าจะรีบไปหาทันที

เจ้าหน้าที่กำจัดกอริลลามาถึงอย่างรวดเร็ว เขาโดดลงจากรถแวน

แล้วเปิดท้ายหยิบตาข่ายอันใหญ่ ปืนลูกซอง

จากนั้นเขาปล่อยหมาท่าทางดุร้ายตัวหนึ่งลงมา

“ เอาล่ะ ” เขาพูด
“ ผมจะบอกให้ว่าจะทำอย่างไร ผมจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่มีกอริลลาอยู่แล้วเขย่าจนมันตกลงมา พอมันตกลงมาหมาจะวิ่งเข้าไปงับจุดยุทธศาสตร์ของมัน ตอนนั้นมันจะไม่มีสภาพจะป้องกันตัว คุณช่วยขว้างตาข่ายนี่ไปคลุมมันที แล้วผมจะรีบลงมาจัดการมัดมันเอง”

พูดเสร็จเจ้าหน้าที่กำจัดกอริลลาก็รีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ทันที

“ เดี๋ยวก่อน ”

ชายเจ้าของบ้านขัดจังหวะ

“ แล้วปืนลูกซองนี่ใช้ทำอะไร

“ อ้อ ลืมไป ”

เจ้าหน้าที่ตอบ

“ บางครั้งพอผมเขย่าต้นไม้ ไอ้กอริลลาจะเขย่าตอบจนผมร่วงลงมา
ถ้าคุณเห็นยังงั้น รีบยิงหมาเลยนะ ”

Thursday, April 22, 2010

ขำขัน : นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...?



ผมกับแฟนคบกันมาได้ปีกว่าแล้ว และเราตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน …
พ่อแม่ของผม คอยช่วยเหลือเราในทุก ๆ ทางเพื่อนๆก็ล้วนแต่ให้กำลังใจ
ส่วนแฟนของผมน่ะเหรอ ? เธอเป็นความฝันของผมเลยล่ะ
แต่มันมีอยู่อย่างนึง ที่รบกวนจิตใจผมเหลือเกิน ให้ตายเถอะ....
สิ่งเดียวสิ่งนั้นก็คือ น้องสาวของแฟนผมนั่นเอง!! เธออายุ 21 ปี
และชอบนุ่งมินิสเกิร์ตฟิตเปรี๊ยะตัวสั้น**

เวลาที่เธอเข้ามาใกล้ๆ ผม เธอมักจะชอบก้มตัว
ให้ผมได้แอบเห็นกางเกงในของเธอทุกที ผมรู้ว่าเธอจงใจ..
เพราะไม่เคยเห็นเธอทำอย่างนี้กับใครเลย

มีอยู่วันนึง น้องสาวแฟนผม ก็โทรมาหาผม...
และขอให้ผมไปช่วยเช็คการ์ดแต่งงานที่บ้าน

พอผมไปถ ึง จึงได้รู้ว่า.... เธออยู่บ้านคนเดียว!! เธอกระซิบที่ข้างหูผม ว่า....
อีกไม่นานผมก็จะแต่งงานกับพี่สาวของเธอแล้ว
เธอเองมีความรู้สึกและความต้องการบางอย่างที่เธอเอาชนะมันไม่ได้
และเธอไม่ต้องการจะเอาชนะความรู้สึกนั้นด้วย..
เธอบอกว่าเธออยากจะมีอะไรกับผม!!! แค่ครั้งเดียวเท่านั้น..
ก่อนที่ผมจะแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกับพี่สาวเธอ
ผมช็อคไปเลย พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

เธอบอกว่า... เธอจะขึ้นไปรอข้างบนห้องนอน
ถ้าผมอยากจะให้มันเป็นไปอย่างที่เธอว่าก็ให้ตามเธอขึ้นไป
ผมนิ่งอึ้งไปหมด และมองเธอก้าวขึ้นบันไดไป พอเธอขึ้นไปถึงขั้นบนสุด....
เธอก็ถอดกางเกงชั้นในออกแล้วโยนมันลงมาข้างหน้าผม!!

ในวินาทีนั้นเอง ผมลุกขึ้นยืน... และรีบเปิดประตูบ้านออกไป เดินตรงไปที่รถทันที

สิ่งที่ผมพบ คือ ว่าที่พ่อตาของผมกำลังยืนอยู่ข้างนอกบ้าน....
ดวงตาของเขาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เขาเข้ามาสวมกอดผม และพูดว่า....

' พวกเราดีใจเหลือเกินที่คุณผ่านการทดสอบครั้งนี้มาได้
เราคงหาคนที่ดีกว่านี้ให้ลูกสาวของเราไม่ได้อีกแล้ว ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเรา ''


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า........ จงเก็บถุงยางไว้ในรถของท่านเสมอ!!

Wednesday, April 21, 2010

การมีบุตร..ฮาโครต‏.



มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง แต่งงานกันมาได้หลายปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีบุตร
จนในที่สุดสามีจึงตัดสินใจให้ชายอื่น
มาทำหน้าที่พ่อเด็กแทนตัวเอง(จ้างคนอื่นมาผลิตลูก)

ก่อนออกจากบ้านเค้าได้มาจูบลาภรรยา แล้วบอกว่า
"ทำตัวตามสบายนะ ผมจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวกลับมาตอนเย็น"
ภรรยาก็รับคำและเดินเข้าบ้านไป


ต่อมาซักห้านาทีได้มีชายหนุ่มคนนึงที่มีอาชีพถ่ายภาพเด็ก
เดินมาที่บ้านของสามีภรรยาคู่นี้
และดันมาเคาะประตูด้วยหวังจะถ่ายรูปเด็กทารกของบ้านนี้

เอ่อ ผมขอแนะนำตัว ผมเกรงว่าคุณนายคงยังไม่รู้จักผม ผมมาเพื่อ..."

"ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ดิฉันทราบแล้ว เชิญเข้ามาก่อนค่ะ"

ชายหนุ่มจึงดีใจที่ไม่ต้องกล่าวมาก

"เราจะเริ่มกันที่ไหนดีคะ" หญิงเจ้าของบ้านถาม

"เอ่อ ปกติผมจะเริ่มที่อ่างอาบน้ำซัก2ครั้ง

โซฟาและก็บนพื้นห้องนั่งเล่นก็กว้างดีนะครับ" ชายหนุ่มยิ้มกว้าง

"หา!!!!!!

ห้องน้ำและห้องนั่งเล่นมิน่าฉันกับสามีถึงทำไม่ได้

และจะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่คะ"ถามพลางหน้าแดง


"สำหรับอาชีพอย่างพวกผมส่วนใหญ่จะพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุด
สำหรับผมประมาณที่ละ 5 นาที

แต่ว่าต้องแล้วแต่สถานการณ์
แต่ผมรับรองได้เลยว่าคุณนายต้องพอใจแน่"ชายหนุ่มตอบ

"ไม่รู้สิคะ" คุณนายหน้าแดงหนักไปอีก

"นี่ครับ ผลงานของผม" พลางควักรูปเด็กทารกมาให้ดู



"คนนี้ทำกันบนรถเมลล์" "รถเมล์..."
เธอร้องเสียงหลงพลางเอามือจับปกเสื้อตัวเองกำแน่น


ครับ...ส่วนแฝดคนนี้ผลงานไม่ดีนัก
เนื่องจากแม่ของเด็กไม่ให้ความร่วมมือ"


"ยังไงคะ ไม่ให้ความร่วมมือ" หน้าแดงหนักเข้าไปอีก

"คือ เธอร้องตลอดเวลา
หนะครับร้องจนผมไม่มีสมาธิในที่สุดผมต้องพาเธอออกไปที่สวนสาธารณะ"

"ต้องไปถึงสวนสาธารณะเลยเหรอคะ"

"ครับทำกันจนเย็นพอดีกระรอกมาแทะเครื่องมือของผมเลยต้องกลับ"


"อะไรนะคะ!!!!! กระรอกแทะเนี่ยนะคะ"



"ครับ เริ่มกันหรือยังครับ ผมจะได้เอาขาตั้งออกมา"

"ทำไมต้องใช้ขาตั้งหล่ะคะ"
เธอตกใจ

"อ๋อ อุปกรณ์ของผมมันใหญ่มากหนะครับ ใหญ่จนไม่สามารถถือได้

"อ้าวๆๆ คุณนาย!!!!!!!! เป็นลมไปซะแล้ว

เวลา..นาฬิกา แตกต่าง..แต่เติมเต็ม‏

แปลกมั๊ย..ใคร ๆ ก็คิดว่า เวลากับนาฬิกาเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ
จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อย

เวลา... เดินไปข้างหน้า
นาฬิกา.. เดินอยู่ที่ เก่า

เวลา.. เราไม่อาจย้อนกลับ
นาฬิกา.. เราหมุนย้อนมันได้

เวลา.. เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน
นาฬิกา.. เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ไปเลย

เวลา.. ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องแลกกะ อะไร
นาฬิกา.. ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้ง นั้น

แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยัง ไง ในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน

แต่ถามหน่อย.. ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลามั๊ย
หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จัก เวลา จะมีประโยชน์อะไร

ถึง 2 สิ่งจะ แตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว
ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียง แต่จะมองเห็นมันรึป่าว?

ฉันกับเค้า.. อาจไม่มีอะไร เหมือนกัน
ฉันกับเค้า.. มีความคิด และวิถีชีวิตที่ต่าง กัน
ฉันกับเค้า.. อาจเดินกันคนละเส้นทาง
ฉัน กับเค้า.. อาจมีความฝันที่ห่างไกลกัน

ฉัน.. อาจเหมือนกับเวลา ที่ชอบเดินไปข้างหน้า
หาสิ่งใหม่ๆที่ ท้าทาย โดยทิ้งหลายสิ่งไว้ข้างหลัง

เค้า.. อาจ เหมือนกับนาฬิกา ที่ยังเป็นแบบเดิมๆ
ใช้ชีวิตและทำหน้าที่ไป เรื่อยๆ ในมุมเก่าๆ

ฉันอาจไม่พบกับ เค้าเลย ถ้าฉันยังดึงดันจะมองแต่ข้างหน้า
ฉันอาจไม่พบกับเค้า เลย ถ้าฉันไม่มองไปข้างหลัง

เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังอยู่แบบเดิมๆ
เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังก้มหน้า ก้มตาทำหน้าที่ของเขาไป

แต่ฉันยังเฝ้า มอง เฝ้ารอ
ความแตกต่าง อาจสร้างกำแพงบังเค้า ไว้

แต่ฉันยังเชื่อมั่น ว่าซักวัน สิ่งนั้นน่ะ แหละ
ที่จะเชื่อมโยงใจเราเข้าหา กัน

ความแตกต่าง จะเติมเต็ม ส่วนที่เราขาดหาย
และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงแค่คำ ว่า..
** กันและ กัน **

รูปภาพฮาๆ ตลกด้วยภาพ...














หมอนข้าง‏





Wednesday, April 7, 2010

ทำไมหัวใจถึงเอียงซ้าย ???

เ ร า ใ ส่ น า ฬิ ก า มื อ ซ้ า ย

ที่ ใ ส่ มื อ ซ้ า ย เ พ ร า ะ ถ นั ด ข ว า

ย ก มื อ ซ้ า ย ขึ้ น ม า ดู เ ว ล า ไ ด้ ง่ า ย

แ ต่ ถึ ง มี น า ฬิ ก า เ ร า ก็ ช อ บ ไ ป ส า ย อ ยู่ ดี

น า ฬิ ก า ก็ แ ค่ บ อ ก เ ว ล า . . ไ ม่ ไ ด้ ทำ ใ ห้ เ ร า ไ ป เ ร็ วขึ้ น

คิ ด ดู แ ล้ ว . . หั ว ใ จ ก็ อ ยู่ ท า ง ซ้ า ย เ ห มื อ น กั น

บ า ง ที เ ร า ก็ คิ ด น ะ . . ว่ า อ วั ย ว ะ ใ น ร่ า ง ก า ย ที่ มี 2 ชิ้ น

จ ะ อ ยู่ ซ้ า ย - ข ว า

อ ย่ า ง แ ข น , ข า , ลู ก ต า ทำ น อ ง นั้ น . .

แ ล้ ว ที่ มี ชิ้ น เ ดี ย ว . . ก็ แ ส ด ง ค ว า ม โ ด ด เ ด่ น ข อ ง มั น

อ ย่ า ง จ มู ก , ส ะ ดื อ ก็ อ ยู่ ต ร ง ก ล า ง . . ป ร ะ ม า ณ นั้ น

แ ล้ ว ทำ ไ ม . . หั ว ใ จ ถึ ง เ อี ย ง ซ้ า ย ล่ ะ ? ?

บ า ง ที เ ร า ก็ คิ ด ว่ า . . ที่ เ ป็ น เ ช่ น นั้ น ก็ เ พ ร า ะ

ใ ค ร บ า ง ค น อ ย า ก เ ตื อ น ใ ห้ เ ร า รู้ ว่ า . .

หั ว ใ จ เ ร า ไ ม่ ห นั ก แ น่ น พ อ ที่ จ ะ อ ยู่ ต ร ง ก ล า ง

แ ล้ ว ก็ ไ ม่ มี ม า ก พ อ จ ะ แ บ่ ง เ ป็ น ส อ ง ด้ ว ย เ ห มื อ น กัน

ทางของฉัน...ทางของเธอ

ครั้งหนึ่งนั้น ฉันได้พบกับเธอ
การได้พบกับเธอ สำหรับฉันแล้วเหมือนใครสักคนกำหนดไว้
การได้พบกับฉัน สำหรับเธอคือเรื่องบังเอิญ
เราใช้เวลาศึกษาซึ่งกันและกัน แต่ต่างกันที่ความหมาย

ฉันใช้หัวใจศึกษาความเป็นเธอ...
แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอใช้อะไรมองในความเป็นตัวฉัน
ฉันแน่ใจว่าสิ่งนั้นต้องไม่ใช่หัวใจอย่างแน่นอน

ฉันมองเธอเป็นที่พึ่งสุดท้ายในชีวิต
เพิ่งรู้ว่าฉันคิดผิดมาโดยตลอด
เพราะสิ่งที่ฉันคิด มันผิดไปจากที่เธอต้องการ
และฉันก็เพิ่งมารู้ว่าเราเริ่มเดินกันคนละทาง
อาจเป็นเพราะเราไม่ได้มีจุดหมายไว้ที่เดียวกัน

วันนั้นที่เราได้พบกัน...
ทางของฉันคงบรรจบมาพบกับเธอ
จะจดจำเอาไว้เสมอ...
ว่าฉันไม่ใช่ทางผ่านสำหรับเธอ
เราแค่เผลอมาเจอกัน...

ทางเส้นนั้น ที่เธอเลือกเดิน
ห่างไกลเหลือเกินกับทางที่ฉันจะไป
ฉันไม่รู้...เราจะได้พบกันอีกไหม
แต่อยากรู้ว่าใคร ขีดเส้นทางให้เราเดิน

ต่อให้ต้องเป็นอยู่อย่างนั้น
ก็ไม่เห็นว่ามันจะต้องเป็นอะไร...
ทุกอย่างไม่ได้มีแต่เรื่องที่เลวร้าย
จะใช้หัวใจเข้าใจสิ่งที่เป็น
...........................................


ความเลว ของ การข่มขืนแบบใหม่!!‏



ผมไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อไหร่

แต่อย่างน้อยมันอาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด

ที่จะทำให้คุณได้ระมัดระวัง ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ



ผู้หญิงคนที่ประสบกับเหตุการณ์นี้

เธอเพิ่งออกจากโรงพยาบาล

เรื่องมีอยู่ว่า.... วันหนึ่งหลังเลิกงาน

ผมได้ฟังเรื่องราวกลยุทธ์ในการข่มขืนแบบใหม่จากน้องสะใภ้

ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง

หลังเลิกงานผู้หญิงคนนี้กำลังจะกลับบ้าน

ระหว่างทางเธอเห็นเด็กตัวน้อยๆกำลังยืนร้องไห้ อยู่ข้างถนน

ด้วยความรู้สึกสงสารเด็ก เธอเดินเข้าไปหาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ"

เด็กน้อยตอบว่า " ผมหลงทาง พี่ช่วยพาผมไปส่งที่บ้านหน่อยได้ไหมครับ"

แล้วเด็กน้อยก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ

แล้วบอกว่าให้พาไปส่งตามที่อยู่ในนั้น และด้วยความใจดีของเธอ

เธอมิได้สงสัยอะไร เลยแม้แต่น้อย เธอก็พาเด็กไปส่งตามที่อยู่นั้น

พอถึงที่บ้านของเด็กน้อยตามที่อยู่ในนั้น เธอก็กดกริ่ง ทันใดนั้นเอง

กริ่งที่ว่าถูกต่อสายไฟฟ้าแรงสูงเอาไว้

แน่นอนมันช็อตเธอจนหมดสติ....วันต่อมาเมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอพบว่า

เธออยู่ในบ้านร้างพร้อมกับร่างอันเปลือยเปล่า

เธอจำไม่ได้ ไม่เห็นแม้กระทั่งใบหน้าของผู้ร้าย

นั่นคงเป็นคำถามว่าทำไมทุกวันนี้อาชญากรรมถึงพุ่งไปหาคนที่ใจดี

ในครั้งต่อไปถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก

ไม่จะกับใครก็ตามขอให้จำไว้ว่า อย่าพาเด็กไปในที่ที่เขาต้องการ

ยังไงให้พาไปที่สถานีตำรวจ จะดีกว่า จำไว้เมื่อพบเด็กหลงทาง

ทางที่ดีที่สุดควรพาไปที่สถานีตำรวจนะครับ

ยังไงช่วยกรุณาส่งข้อความนี้ไปยังเพื่อนผู้หญิงทุกๆคนด้วยนะครับ

(เพิ่มเติม: คุณผู้ชายที่ได้รับเมล์นี้ ช่วยบอกเรื่องราวนี้ให้กับแม่,

พี่สาวน้องสาว, ภรรยาและแฟนของคุณด้วยนะ

Thursday, March 25, 2010

สาวไทยใจกล้า ตั้งแต่เด็ก‏





รูปภาพ ร้ายจริงๆ สาวสมัยนี้


Tuesday, March 23, 2010

'ของขวัญ'เครื่องดื่มจากชายหนุ่ม

ถึงเพื่อนหญิงทุกคน และเพื่อนชายที่มีแฟนเป็นผู้หญิง ช่วยบอกต่อด้วย


'ของขวัญ'เครื่องดื่มจากชายหนุ่ม



อย่าลืมว่าในสังคมและคนรอบตัวคุณอาจมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันอยู่
กรุณาส่งจดหมายนี้ให้กับเพื่อนผู้หญิงของคุณทุกคน
แม้แต่คุณผู้ชายก็ควรรู้ไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้หญิงรอบตัวที่คุณรัก

นี่เป็นยาชนิดใหม่ที่ถูกนำมาใช้กันในตลาดมืดเมื่อเกือบปีมาแล้ว...

Progesterex - ยาเม็ดคุมกำเนิด ที่ 'นักข่มขืน' นำมาใช้ในงานปาร์ตี้เพื่อล่า 'เหยื่อ'


Progesterext เป็นยาที่สัตวแพทย์ใช้ในการทำหมันสัตว์ขนาดใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มอ้างว่า

'ยา Progesterex นั้นมักจะถูกใช้ควบคู่กับ Rphypnol ซึ่งเป็นยาที่นักข่มขืนมักจะใช้กัน
โดยผู้ลงมือมักจะใส่ยา Rohypnol ลงในเครื่องดื่มของเหยื่อ
และในเช้าวันรุ่งขึ้นหญิงสาวผู้เป็นเหยื่อจะไม่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนก่อนหน้าได้เลย'
ยา Progesterex จะละลายในเครื่องดื่มอย่างรวดเร็ว
สามารถป้องกันการตั้งครรภ์จากการข่มขืนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดังนั้นนักข่มขืนจึงมักไม่ต้องคอยกังวลเรื่องของการเรียกร้องค่าเสียหายหรือ
การตรวจสอบเพื่อระบุตัวพ่อของเด็กอีกด้วย

นอกจากนี้ยา Progesterex ยังทิ้งผลกระทบกับเหยื่อในระยะยาว
กล่าวคือ ยา Progesterex นั้นถูกใช้ในการทำหมันม้า
ซึ่งผู้หญิงที่ได้รับยาตัวนี้เข้าไปในร่างกาย

จะทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อาจถาวร หรือเป็นมะเร็ง!!!!


ยา Progesterex หาซื้อได้ง่ายในโรงเรียนฝึกสอนของเหล่าสัตวแพทย์
หรือวิทยาลัยเขตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการสัตวแพทย์

เชื่อหรือไม่ว่าแม้แต่เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตหลายแห่ง ก็มียาตัวนี้จำหน่ายอย่างเปิดเผย
พร้อมทั้ง บอกวิธีการใช้อย่างละเอียด!!!!
ตอนนี้อยู่ที่คุณแล้วว่าจะส่งข้อความนี้ไปเพื่อเตือนผู้หญิงทุกคนที่คุณรู้จัก
หรือจะปล่อยเอาไว้ให้ผู้หญิงเหล่านั้นต้องไปเผชิญกับชะตากรรมดังกล่าวเพียงลำพัง