Friday, June 18, 2010

ความแตกต่างระหว่าง คน สอง คน‏



เธอชอบสีขาว --- เขาชอบสีดำ

เธอชอบตุ๊กตาหมี --- เขาชอบรถถัง



เธอชอบนั่งดูตะวันขึ้นที่ชายทะเลในตอนเช้า ---

เขาชอบบรรยากาศของแสงไฟในเมืองตอนกลางคืน



เธอชอบจักรยานเพราะความช้าของมัน
ทำให้เธอมีเวลาดูอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านไป
เขาชอบความเร็วของมอเตอร์ไซค์
เพราะมันทำให้เขาไปถึงที่หมายทันเวลา



เธอนอนสี่ทุ่มตื่นตีสี่เพื่อใส่บาตร

เขานอนตีสี่ ตื่นสี่โมงเย็น เพราะกลับดึก



เธอได้ท๊อบ เกือบทุกวิชา ---

เขาได้0 เกือบทุกวิชา



เธอถูกชมและรับรางวัลเด็กนักเรียนดีเด่น เป็นประจำ

เขาถูกด่าและมีชื่ออยู่ในบัญชีดำของโรงเรียน



เธอยิ้มง่าย รักเด็กๆ และกล้าแสดงออก ---

เขาหงุดหงิด เกลียดเด็กๆ และขี้อาย



เธอไม่ชอบกีฬากลางแจ้ง ---

เขาชอบเล่นบาส กับฟุตบอล



เธอขี้แย ---

เขาเข้มแข็ง



เธอกลัวฟ้าร้อง ---

เขาชอบฝนตก



เธอเกลียดความเหงา และไม่ชอบอยู่คนเดียว

เขาเบื่อสังคมและชอบเก็บตัวในห้อง



เธอร้องไห้ในเรื่องที่เราไม่คิดว่ามันน่าเศร้า ---

เขากลั้นน้ำตาในเรื่องที่อยากฆ่าตัวตาย



เธอมองหน้าเขาแล้วเห็นผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่ง ---

เขามองหน้าเธอแล้วเห็นนางฟ้าที่ดีที่สุดในชีวิตเขา



เธอจับมือเขาไว้ในวันที่เขาท้อแท้ ---

เขานั่งลงข้างๆเธอในวันที่เธอว้าเหว่



เธอเบื่อคำชื่นชมจอมปลอมและ
ต้องการได้ยินเสียงเขาแม้จะเป็นการด่าก็ตาม ---
เขาอยากได้ยินคำชื่นชมจอมปลอม
ขอแค่มันมาจากปากเธอ



เธอจมปลักอยู่ในความทุกข์ในวันที่เขาหายไป

เขาจมดิ่งลงในความสุข ในวันที่เธออยู่ข้างๆ



วันใดก็ตามที่เขาท้อแท้ หรือ ยอมแพ้
เธอจะโทรไปหาเขาพูดแต่คำว่าฉันรักเธอนะ

วันใดก็ตามที่เธอผิดหวัง หรือ เหงาเขาจะโทรไปหาเธอ
และจะเงียบ อยู่อย่างนั้น

จนกว่าเธอจะหยุดร้องไห้



วันใดก็ตามที่เขาได้รับชัยชนะ
เธอจะตรงเข้าไปหา แล้วกอดเขา

วันใดก็ตามที่เธอได้รางวัล เขาจะตรงเข้าไปหา
ยิ้มให้ชูนิ้วโป้งแล้วพูดคำว่า ยินดีด้วย



วันเกิดเขา เธอหอมแก้มเขาฟอดหนึ่ง แล้วพูดคำว่าฉันรักเธอ

วันเกิดเธอ เขาโทรมาตอนเที่ยงคืน แล้วพูดคำว่า ฉันก็รักเธอ



เธอจับมือเขาเพื่อจะเตือนให้เขารู้ว่าเขาสำคัญสำหรับเธอมากแค่ไหน

เขานั่งข้างๆเธอ เพื่อให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว



เธอจะร้องไห้ และขอร้องให้คนที่ทำร้ายเขาหยุดการกระทำ ---

เขาจะต่อยหน้า ใครก็ตามที่ทำร้ายเธอ



เมื่อเขาโกรธ เธอจะรอให้เขาหายโกรธ แล้วโทรไปบอกว่า ขอโทษนะ

เมื่อเธอโกรธ เขาจะดึงมือเธอไว้ แล้วพูดคำว่า ฉันขอโทษ



เธอโทรไปหาเขาทุกวันเพื่อพูดคำว่า ฉันรักเธอ ---

เขารอคอยโทรศัพท์เธอทั้งวัน เพื่อรอฟังคำว่า ฉันรักเธอ

Thursday, June 17, 2010

ถ้าพวกเรายังอยู่ในรถคันนั้นก็ดีน่ะซิ!.

มีคู่รักคู่หนึ่งนั่งรถเมล์ที่กำลังตรงไปในเมืองในหุบเขา

มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ลงกลางทางหลังจากที่พวกเขาได้ลงแล้ว

รถเมล์ก็วิ่งต่อไปแต่เพียงไม่นานก็มีหินก่อนขนาดมหึมา

ได้ตกลงมาจากที่สูงมาก และทับรถเมล์คันนั้นพังยับเยิน

ทุกคนที่อยู่ในรถในเวลานั้นเสียชีวิตทั้งหมด

คู่รักคู่นั้นเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พูดขึ้นว่า

"ถ้าพวกเรายังอยู่ในรถคันนั้นก็ดีน่ะซิ!"

คนส่วนใหญ่น่าจะคิดว่า "ยังดีนะที่เราลงจากรถก่อน!"

แต่คู่รักคู่นี้กลับพูดสิ่งที่ต่างจากคน

ส่วนใหญ่ คุณคิดว่าเพราะอะไร???


________________________________


ตอบมาก่อนนะว่าคิดว่าไง เดี๋ยวจะเฉลยทีหลัง




ขอเฉลยนะครับ




________________________________



ถ้าพวกเขายังคงอยู่และไม่ได้ลงจากรถ

รถเมล์คันดังกล่าวก็จะไม่ต้องหยุดรถเพื่อพวกเขา

และจะขับเลยตำแหน่งที่หินถล่มลงมา!!

ในชีวิตของพวกเรานั้น

ให้ลองมองด้วยมุมมองที่ต่างจากของตัวเองและพยายามเข้าใจ

และช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น อย่าได้ใช้ชีวิตอย่างขาดสติและเฉยเมย

ทำเพื่อตัวเองอีกต่อไปเลย

คุณตอบปริศนาข้างบนถูกมั้ยครับ?

ถ้าคุณตอบถูก(โดยไม่เคยอ่านที่อื่นมาก่อนนะ) แปลว่าผมตาถึงมาก

ที่ได้คุณมาเป็นเพื่อน แต่ถ้าคุณตอบผิด

ก็ยินดีกับคุณด้วยที่เป็นเหมือนผม

และขอให้ช่วยส่งข้อความนี้

ต่อไปให้กับเพื่อนที่คุณรักด้วย

Wednesday, June 2, 2010

แสงไฟในเศษฟืน‏.

แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้.. ยาย..รอ...


: แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้..ยาย..รอ...
คำสอนของยายทอง ขอปล้องกลาง
ชีวิต หญิงชราวัย 81 ปี ที่ต่อสู้ชีวิต ด้วยการ'ขายเศษฟืน'
ยายทอง คือยายที่เราเคยไปถ่ายทำ สารคดีเรื่อง แสงไฟในเศษฟืน
แล้วได้รับรู้ว่าชิวิตของ ยายนั้นต้องอยู่อย่างลำบากในเพิงสังกะสีเก่าๆ
ไม่ต่าง จากกองขยะ ที่ทั้งอุดอู้ สกปรก และไม่สามารถกันแดดฝนอะไรได้ เลย
ยายต้องเดินเท้าหลายกิโลพร้อมกับกระสอบฟืน ขวดน้ำ เก่าๆ และร่มคันหนึ่ง
ใช้พยุงตัวเองมาเรื่อยๆให้ถึง หน้าโรงเรียนบุญวัฒนาเพื่อขอขึ้นรถโดยสาร
( ที่บางคัน จอดรับ และบางคันก็ไม่ให้ยายขึ้น) ไปยังหน้าร้านทอง
สามแยกตลาดแม่กิมเฮง





'1 บาท เศษไม้ขอแลกเศษเงิน ขอบคุณลูกหลาน..ที่ช่วยต่อชีวิตให้ ยาย'
ประโยคหนึ่งในเศษกระดาษเก่ายับ ที่วางอยู่หน้ากองฟืน
ได้คนขับสามล้อแถวนั้นเขียนทิ้ง ไว้ให้
เผื่อว่าคนที่ผ่านไปมาจะได้เห็น ว่า






ที่มุมเสาไฟฟ้านั้นมีอีกชีวิตที่รอคน เมตตา
ซึ่งความจริงนั้นบางวันยาย...
อาจได้แค่คนที่หยุดมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครสนใจจะซื้อเศษ ไม้ไร้ค่านั้นเลย
สั ก ค น เ ดี ย ว






เราส่งเมลล์นี้มา ด้วยความที่อยากช่วย เหลือยาย
แต่ไม่รู้จะช่วยด้วยวิธี ไหน
อยากให้เพื่อนๆช่วย บอกต่อกันไปเรื่อยๆ
เผื่อว่าคนที่อยู่โคราช และมีโอกาสผ่านไป
ถนนเส้นย่าโม สามแยกทางเข้าตลาดแม่ กิมเฮง ตรงเสาไฟฟ้า หน้าร้านทอง
เพื่อนๆจะเห็นคนแก่คน หนึ่ง ที่ไม่มีอะไรเลย นั่งอาศัยเงาจากเสาไฟฟ้า
เพื่อ ขายของบางอย่าง ที่คนสมัยนี้เค้าไม่ได้ต้องการแล้ว
แต่ 'ฟืน' มันก็เป็นเหมือนความหวัง เดียวที่ยายมี
ทางออกเดียวที่ยายเห็น
จากดวงตาที่พร่ามัวเกือบบอดด้วยโรคชรา
และหูที่ตึงจนเกือบไม่ได้ยินแล้ว
ถ้าเพื่อน ไม่ได้ผ่านไปก็ช่วยบอกต่อๆกันไป ที
ถือว่าเป็นการทำบุญเท่าที่เราทำได้ เผื่อว่าวัน หนึ่ง
จะมีใครสักคนที่จะเข้ามาช่วย เหลือ
ยายทอง ให้เป็นอยู่ในสภาพที่ดีกว่า นี้....